หยกมีหลากหลายสีเกิดจากคุณสมบัติเฉพาะตัว
หยกเจดไดต์มีเนื้อใสกว่าและมีสีหลากหลายกว่าหยกเนพไฟรด์ เช่น สีเขียว สีม่วง สีน้ำตาล สีเหลือง สีของหยกเจดไดต์มาจากธาตุโลหะที่แทรกอยู่ในโครงสร้าง ถ้าไม่มีธาตุโลหะหรือเป็นเจดไดต์บริสุทธิ์จะมีสีขาวและเนื้อใส ธาตุโลหะที่ทำให้เกิดสีในหยกเจดไดต์ ได้แก่
ธาตุโครเมียม ให้สีเขียว
ธาตุเหล็ก ให้สีเหลือง น้ำตาล ถึงส้ม
ธาตุแมงกานีส ให้สีชมพู และม่วงน้ำตาล
หยกเจดไดต์ที่ซื้อขายในท้องตลาดมีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน ตามชนิดสีและ ความใสของเนื้อหยก ดังนี้
หยกจักรพรรดิ (Imperial jade) เป็นหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด มีสีเขียว ปานกลางถึงเขียวเข้ม สีกระจายเรียบสม่ำเสมอทั้งเม็ด กึ่งโปร่งใสจนมองทะลุไปถึงด้านหลังได้
หยกยูนนาน (Yunan jade) มีสีเขียวเข้ม กึงโปร่งแสงจนถึงเกือบทึบแสง จึงมักเจียระไนเป็นแผ่นบาง ๆ มีแหล่งอยู่ที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
หยกลาเวนเดอร์ (Lavender jade) เป็นหยกที่มีสีม่วงอ่อน เนื้อกึ่งหยกขาว เนื้อใส คุณภาพดี
โปร่งแสงถึงโปร่งแสง
หยกลายมอสในหิมะ (Moss in snow jade) เป็นหยกสีขาวเนื้อโปร่งแสงถึงเกือบทิบแสง มีสีเขียวอยู่ประปรายเป็นหย่อม ๆ คล้ายต้นมอสขึ้นบนพื้นหิมะ
หยกกระดูกไก่ (Chicken-bone jade) เป็นหยกเนื้อทึบ มีสีขาวถึงสีเทาคล้ายกระดูก
หยกลายทองคำ (Galactic gold jade) เป็นหยกที่มีเนื้อสีดำและสีทองคำประปรายอยู่ในเนื้อ สีทองคำมาจากผลึกแรไพไรต์ส่วนสีดำของเนื้อหยกคงเนื่องจากมีมลทินเหล็กปนอยู่มา
เพราะเหตุนี้จึงทำให้หยกมีสีที่แตกต่างกันออกไป และแต่ละสีมีความหมายตามความเชื่อแตกต่างกันออกไปอีกด้วย อยากทราบเกี่ยวกับความหมายตามความเชื่อในหยกแต่ละสี โปรดติดตามในบทความถัดไป ท่านมีคำถามหรือสนใจเกี่ยวกับหยก สามารถทักเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ Line